การให้อาหารปลานิลในกระชัง

ให้อาหารปลานิลในกระชัง ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม

อาหารปลานิล
สำหรับการเลี้ยงปลานิลในกระชัง ถือว่าเป็นรูปแบบการเลี้ยงปลาแบบพัฒนา (Intensive) หรือกึ่งพัฒนา (Semi intensive) เน้นการให้อาหารเพื่อเร่งผลผลิตและการเจริญเติบโตเป็นหลัก จึงควรให้อาหารจำพวกโปรตีนค่อนข้างสูง และเหมาะสมกับความต้องการของปลานิลแต่ละขนาด และปัจจัยสำคัญที่เกษตรผู้เลี้ยงปลาควรพิจารณา ในการให้อาหารปลานิลในกระชัง มีดังนี้ครับ

1. ปริมาณโปรตีนในอาหารสำหรับปลานิล ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของปลานิลที่มีอายุแตกต่างกัน ปริมาณโปรตีนในอาหารปลาก็จะแตกต่างกันด้วย แต่สำหรับลูกปลานิลวัยอ่อน (Juvenile) และลูกปลานิ้ว (Fingerling) เป็นช่วงที่ต้องการอาหารที่มีระดับโปรตีนประมาณ 30-40 % แต่สำหรับปลานิลใหญ่ จะต้องการอาหารที่มีปริมาณโปรตีนลดลงมาเพียง 25-30 %

2. ช่วงเวลาในการให้อาหาร “ปลานิล” โดยปกติแล้วปลานิลจะกินอาหารได้ดีในสภาพน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนละลายในน้ำสูง ซึ่งจะเป็นช่วงเวลากลางวัน เพราะฉะนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลควรให้อาหารปลานิลในเวลากลางวันเป็นดีที่สุดครับ

3. ความถี่ในการให้อาหาร “ปลานิล” ปลานิลจัดว่าเป็นปลาที่ไม่มีกระเพาะอาหารจริง จึงเป็นปลาที่กินอาหารได้ทีละน้อยและมีการย่อยอาหารที่ค่อนข้างช้า การให้อาหารครั้งละมากๆ จะทำให้สิ้นเปลืองเปล่าๆ และยังอาจจะทำให้เกิดน้ำเสียได้ ดังนั้นในการให้อาหารปลานิลให้ได้ประโยชน์สูงสุดจึงควรให้อาหารทีละน้อย แต่ให้บ่อยๆ 4-5 ครั้งต่อวันก็พอ จะทำให้ปลานิลกินอาหารได้หมดและเจริญเติบโตเร็วขึ้นด้วย

4. อัตราการให้อาหาร “ปลานิล” สำหรับปริมาณอาหารสำหรับปลานิล ให้เราพิจารณาจากขนาดของปลานิลและอุณหภูมิของน้ำ หากอุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น ก็จะทำให้ปลานิลกินอาหารได้มากขึ้นด้วย สำหรับอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 25-30 องศาเซลเซียส และควรให้อาหารปลา 20 % ของน้ำหนักปลา  แต่สำหรับขนาดเล็กในปลารุ่น อัตราการให้อาหารจะลดลงเหลือประมาณ 6-8 % และสุดท้ายสำหรับปลานิลขนาดใหญ่ อัตราการให้อาหารจะเหลือเพียงประมาณ 3 - 4 % ของน้ำหนักตัวปลาครับส่วนการจัดการระหว่างการเลี้ยงปลานิลในกระชัง ควรมีการตรวจสอบกระชังปลา และมีการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดทุกๆสัปดาห์ รวมทั้งเกษตรกรควรสุ่มจับปลานิลที่เลี้ยง มาตรวจสอบน้ำหนักด้วย เพื่อที่จะคำนวณปริมาณอาหารสำหรับใช้เลี้ยงปลาได้

ที่มา: กรมประมง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)