การเพาะพันธุ์ปลานิลให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
ต้องได้รับการเอาใจใส่และมีการปฏิบัติด้านต่างๆ เช่น การเตรียมบ่อ การเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ การตรวจสอบลูกปลาและการอนุบาลลูกปลาและการอนุบาลลูกปลาสำหรับการเพาะพันธุ์ปลานิลอาจทำได้ทั้งในบ่อดิน บ่อซีเมนต์ และกระชังไนลอนตาถี่ ดังวิธีการต่อไปนี้
ต้องได้รับการเอาใจใส่และมีการปฏิบัติด้านต่างๆ เช่น การเตรียมบ่อ การเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ การตรวจสอบลูกปลาและการอนุบาลลูกปลาและการอนุบาลลูกปลาสำหรับการเพาะพันธุ์ปลานิลอาจทำได้ทั้งในบ่อดิน บ่อซีเมนต์ และกระชังไนลอนตาถี่ ดังวิธีการต่อไปนี้
1.
การเตรียมบ่อเพาะพันธุ์
1.1
บ่อดิน
บ่อเพาะปลานิลควรเป็นบ่อรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีเนื้อที่ตั้งแต่
50–1,600
ตารางเมตร สามารถเก็บกักน้ำได้สูง
1
เมตร
บ่อควรมีเชิงลาดตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันดินพังทลาย และมีชานบ่อกว้าง
1 –
2
เมตร
ถ้าเป็นบ่อเก่าก็ควรวิดน้ำและสาดเลนขึ้นตกแต่งภายในบ่อให้ดินแน่น
ใส่โล่ติ๊นกำจัดศัตรูของปลาในอัตราส่วนโล่ติ๊นแห้ง
1
กก./
ปริมาตรของน้ำ
100
ลูกบาศก์เมตร โรยปูนขาวให้ทั่วบ่อ
1
กก./พื้นที่บ่อ
10
ตรม.
ใส่ปุ๋ยคอกแห้ง
300
กก./ไร่
ตากบ่อทิ้งไว้ประมาณ
2
– 3
วัน
จึงเปิดหรือสูบน้ำเข้าบ่อผ่านผ้ากรองหรือตะแกรงตาถี่ให้มีระดับสูงประมาณ
1
เมตร การใช้บ่อดินเพาะปลานิล จะมีประสิทธิภาพดีกว่าวิธีอื่น
เพราะเป็นบ่อที่มีลักษณะคล้ายคลึงตามธรรมชาติ
และการผลิตลูกปลานิลจากบ่อดินจะได้ผลผลิตสูงและต่ำกว่าต้นทุนกว่าวิธีอื่น
1.2
บ่อซีเมนต์
ก็สามารถใช้ผลิตลูกปลานิลได้ รูปร่างของบ่อจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
หรือทรงกรมก็ได้ มีความลึกประมาณ
1
เมตร
พื้นที่ผิวน้ำตั้งแต่
10
ตารางเมตรขึ้นไป
ทำความสะอาดบ่อและเติมน้ำที่กรองด้วยผ้าไนลอนหรือมุ้งลวดตาถี่ให้มีระดับความสูงประมาณ
80
ซม.
ถ้าใช้เครื่องเป่าลมช่วยเพิ่มออกชิเจนในน้ำจะทำให้การเพาะพันธุ์ปลานิลด้วยวิธีนี้ได้ผลมากขึ้น
อนึ่ง การเพาะปลานิลในบ่อซีเมนต์ ถ้าจะให้ได้ลูกปลามากก็ต้องใช้บ่อขนาดใหญ่
ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนสูง
1.3 กระชังไนลอนตาถี่
ขนาดของกระชังที่ใช้ประมาณ 5x8x2 เมตร
วางกระชังในบ่อดินหรือในหนอง บึง อ่างเก็บน้ำ
ให้พื้นกระชังอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำประมาณ
1
เมตร
ใช้หลักไม้
4
หลัก
ผูกตรงมุม
4
มุม
ยึดปากและพื้นกระชังให้แน่นเพื่อให้กระชังขึงตึงการเพาะพันธุ์ปลานิลด้วย
วิธีนี้มีความเหมาะสมที่จะใช้ผลิตลูกปลาในกรณีซึ่งเกษตรกรไม่มีพื้นที่
2. การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์
การคัดเลือกพ่อแม่ปลานิล
โดยการสังเกตลักษณะภายนอก
ของปลาที่สมบูรณ์
ปราศจากเชื้อโรคและบาดแผล
สำหรับพ่อแม่ปลาที่พร้อมจะวางไข่นั้นสังเกตได้จากอวัยวะเพศ
ถ้าเป็นปลาตัวเมียจะมีสีชมพูแดงเรื่อ
ส่วนปลาตัวผู้ก็สังเกตได้จากสีของปลาตัวผู้และตัวควรมีขนาดไล่เลี่ยกันคือมีความยาวตั้งแต่
15 –
25
เซนติเมตร น้ำหนักตั้งแต่
150 – 200
กรัม
3. อัตราส่วนที่ปล่อยพ่อแม่ปลาลงเพาะพันธุ์
ปริมาณพ่อแม่ปลาที่จะนำไปปล่อยในบ่อเพาะ
1
ตัว/4
ตารางเมตร หรือไร่ละ
400
ตัว
ควรปล่อยในอัตราส่วนพ่อปลา
2
ตัว/ปลา
3
ตัว จากการสังเกตพฤติกรรมในการผสมพันธุ์ของปลาชนิดนี้
ปลาตัวผู้มีสรรถภาพที่จะผสมพันธุ์กับปลาตัวเมียอื่นๆ ได้อีก
ดังนั้นการเพิ่มอัตราส่วนของปลาตัวเมียให้มากขึ้นก็จะทำให้ได้ลูกปลานิลเพิ่มขึ้น
ส่วนการเพาะปลานิลในกระชังใช้อัตราส่วนปลา 6
ตัว
/
ตารางเมตร โดยใช้ตัวผู้
1
ตัว
/
ตัวเมีย
3 – 5
ตัว การเพาะปลานิลแต่ละรุ่นจะใช้เวลาประมาณ
2
เดือน
จึงเปลี่ยนพ่อแม่ปลารุ่นใหม่ต่อไป
4. การให้อาหารและปุ๋ยในบ่อเพาะพันธุ์
การเลี้ยงปลานิลมีความจำเป็นที่ต้องให้อาหารสมทบหรืออาหารผสม ได้แก่ ปลายข้าว
สาหร่าย รำละเอียด ในอัตราส่วน 1 : 2 : 3
โดยให้อาหารดังกล่าวแก่พ่อแม่ปลานิลประมาณ
2%
ของน้ำหนักตัว
ทั้งนี้เพื่อให้ปลานิลใช้เป็นพลังงานซึ่งต้องใช้พลังงานมากกว่าในช่วงการผสมพันธุ์
ส่วนปุ๋ยคอกแห้งก็ต้องใส่ในอัตราส่วนประมาณ
100 – 200
กก./
ไร่
/
เดือน
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มปริมาณอาหารธรรมชาติในบ่อ ได้แก่
พืชน้ำขนาดเล็กๆไรน้ำและตัวอ่อน
อันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกปลานิลวัยอ่อนภายหลังที่ถุงอาหารยุบตัวลง
และจะต้องดำรงชีวิตอยู่ในบ่อเพาะดังกล่าวประมาณ 1
สัปดาห์ก่อนย้ายไปเลี้ยงในบ่ออนุบาล
ถ้าในบ่อขาดอาหารธรรมชาติดังกล่าว
ผลผลิตลูกปลานิลจะได้น้อยเพราะขาดอาหารที่จำเป็นเบื้องต้น
หลังจากถุงอาหารได้ยุบลงใหม่ๆ
ก่อนที่ลูกปลานิลจะสามารถกินอาหารสมทบอื่นๆได้อาหารสมทบที่หาได้ง่ายคือ
รำข้าว ซึ่งควรปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นโดยใช้ปลาป่น กากถั่ว
และวิตามินเป็นส่วนผสม
นอกจากนี้แหนเป็ดและสาหร่ายบางชนิดก็สามารถใช้เป็นอาหารเสริมแก่พ่อแม่ปลา
นิลได้เป็นอย่างดีในกรณีที่ใช้กระชังไนลอนตาถี่เพาะพันธุ์ปลานิลก็ควรให้
อาหารสมทบแก่พ่อแม่ปลาอย่างเดียว