โรคปลา



ป้องกันโรคปลา ด้วยวิธีง่ายๆ

1. ต้องระวังไม่ให้ปลาเกิดความเครียดหรือตกใจ โดยการดูแลสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม มีการถ่ายเทน้ำเป็นระยะ และไม่ควรปล่อยปลาในบ่อให้หนาแน่นเกินไป และที่สำคัญก่อนนำพันธุ์ปลาเข้ามาปล่อยในบ่อเลี้ยง ควรจะแช่ฟอร์มาลีนในอัตราส่วนความเข้มข้น 25-30 ppm (หนึ่งในล้านส่วน) เพื่อกำจัดปรสิตที่อาจติดมากับตัวปลา
2. เมื่อมีการขนส่งปลา ควรแช่เกลือในอัตรา 0.1-0.5 % เพื่อเป็นการลดความเครียดให้กับปลา
3. ควรเลือกซื้อพันธุ์ปลาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคปลาด้วย
4. ถ้าเราจะนำผักบุ้งหรือผักตบชวามาใส่ลงในบ่อ ควรจะทำความสะอาดรากและใบของผักก่อน โดยการแช่ด่างทับทิมเข้มข้น 5 ppm ประมาณ 10 นาที จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อลดสปอร์ของเชื้อรา และปรสิตที่อาจติดมา เพียงเท่านี้บ่อเลี้ยงปลาของเราก็จะปลอดเชื้อ ปลาก็ไม่มีโรค เป็นปลาที่สมบูรณ์ ได้น้ำหนัก สุดท้ายก็ขายได้ราคาดี นั่นเองครับ

น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา



วิธีทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา

น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลาที่ผมจะนำเสนอในวันนี้ เป็นองค์ความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ของปราชญ์ชาวบ้านหลายท่าน ซึ่งต่างก็ได้พิสูจน์และทดลองใช้แล้ว เห็นว่ามีประโยชน์ต่อเกษตรกร โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงปลาในเชิงเศรษฐกิจ หรือจะเลี้ยงไว้รับประทานภายในครอบครัว สามารถนำไปใช้ได้ทันที เป็นการประหยัดต้นทุน อีกทั้งยังทำให้ปลาที่เราเลี้ยงไว้โตไว และน้ำในบ่อเลี้ยงปลาก็ไม่เน่าเสียง่าย อันนี้ผมได้พิสูจน์แล้ว..จึงได้นำวิธีการที่ว่านี้มาแนะนำครับ

วัตถุดิบสำหรับทำ “น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา” มีดังนี้
1. สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 1 ซอง
2. กากน้ำตาล/น้ำตาลทรายแดง 3 กิโลกรัม
3. น้ำเปล่า 6 ลิตร
4. ฟักทองแก่ทั้งเปลือก หั่นหรือสับ  3 กิโลกรัม
5. มะละกอสุกทั้งเปลือก หั่นหรือสับ  3 กิโลกรัม
6. กล้วยน้ำว้าสุกทั้งเปลือก หั่นหรือสับ 3 กิโลกรัม
7. ถังพลาสติกที่มีฝาปิดจำนวน 1 ถัง

วิธีทำ: ก่อนอื่นให้เรานำกากน้ำตาล + สารเร่งพด.2 + น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ ผสมรวมกันในถัง คนให้เข้ากัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที  จากนั้นให้นำส่วนผสมในข้อ 4-5-6 มาผสมรวมกันในถังหมัก คนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดฝาให้สนิทตั้งไว้ในที่ร่ม หมักทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วัน จากนั้นให้นำมากรองเอาแต่น้ำ สามารถนำไปใช้ได้เลยครับ ส่วนกากเราก็ไม่ต้องทิ้ง ให้นำไปใส่โคนต้นไม้หรือใส่ในแปลงนาก่อนทำการไถกลบ ก็จะเป็นปุ๋ยชั้นดีทีเดียวครับ

ประโยชน์ของน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา
1. ปลาจะมีเนื้อหวานรสชาติอร่อย และไม่มีกลิ่นสาบ
2. ปลาจะไม่มีมันในท้อง และปลาไม่เป็นโรค
และสุดท้าย “น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา”  ข้างต้นนี้ ยังใช้เป็นฮอร์โมนสำหรับฉีดพ่นพืชผักต่างๆ ก็จะช่วยเร่งดอก เร่งผล ช่วยเพิ่มรสชาติความหวานให้ผลไม้ที่เราปลูกไว้ได้อีกด้วยครับ

เลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน

การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน

สำหรับอาชีพเลี้ยง ปลาดุก ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรไม่น้อย ราคาก็ทรงตัวค่อนข้างดี เป็นที่ต้องการของตลาดไม่แพ้การเลี้ยงปลาชนิดอื่น สำหรับการเพาะเลี้ยงปลาดุกในเชิงธุรกิจก็มีอยู่หลายรูปแบบ แต่ในวันนี้ผมจะขอเสริมเทคนิคการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การเตรียมบ่อ โดยเริ่มจากเตรียมบ่อและปรับสภาพก้นบ่อให้แห้งสะอาด..จากนั้น..

- ใส่ปูนขาวหรือไดโลไมท์ เพื่อปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของดินในบ่อ ในอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่

- ใส่ปุ๋ยคอก ในอัตรา 40-80 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อให้เกิดไรแดง และให้เกิดอาหารตามธรรมชาติของลูกปลา

- ปล่อยน้ำเข้าบ่อ โดยปล่อยผ่านกรองหรือตะข่ายที่มีตาถี่ เพื่อไม่ให้ศัตรูของลูกปลาติดมากับน้ำ ให้มีความลึกอยู่ประมาณ 30-40 เซนติเมตร รอให้น้ำในบ่อเกิดเป็นน้ำเขียวประมาณ 1 สัปดาห์ค่อยน้ำลูกปลามาปล่อย และที่สำคัญก่อนปล่อยลูกปลาลงบ่อเลี้ยง ควรปรับสภาพน้ำในถุงกับน้ำในบ่อให้มีสภาวะอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกันก่อน โดยนำถุงลูกปลาที่ซื้อมาวางลงในบ่อ แกะปากถุงออก แต่ยังไม่ต้องปล่อยปลาลงไป ให้แช่ถุงปลาในบ่อ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีค่อยปล่อยลูกปลาลงไป เป็นการป้องกันลูกปลาตายได้อีกวิธีหนึ่งครับ